วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ความหมายของคำว่า "แม่"



อ้างอิง ตาม th.wikipedia.org แล้ว คำว่า แม่ คือ

แม่ หรือ มารดา เป็นคำที่เรียกผู้ให้กำเนิด และโดยทั่วไป คือ แม่ที่เป็นบุคคลสำคัญของครอบครัวแบบ พ่อ แม่ ลูก เป็นผู้มีพระคุณต่อลูกเพราะเป็นผู้ให้กำเนิด แม่ทั่วไปมีหน้าที่ให้ครอบครัวคือ เลี้ยงลูก ดูแลบ้าน

คนไทยบางคนมักเรียก แม่ ของตัวเองว่า "คุณแม่" ซึ่งถือเป็นคำที่สุภาพกว่าการเรียกว่า "แม่" ห้วน ๆ

ในภาษาไทยบางครั้งคำว่า แม่ ถูกใช้เรียก ผู้หญิง ทั่วๆไป หรือ จำเพาะเป็นกลุ่มๆ เช่น แม่บ้าน แม่นม หรือบางครั้งก็ใช้เรียกสิ่งที่เป็นตัวหลักของสิ่งอื่น เช่น แม่ทัพ แม่งาน และบางครั้งก็เรียกสิ่งที่ให้กำเนิดสิ่งอื่นๆในธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ

มีบทประพันธ์แปลเกี่ยวกับความรักของแม่ของพระราชธรรมนิเทศ ไว้ดังนี้
ในโลกอันหนาวทรวงลวงหลอกนี้

ช่างไม่มีธารรักอันศักดิ์สิทธิ์

ที่ซึมซาบดื่มด่ำอมฤต

เหมือนในจิตของแม่รักแท้จริง


การออกเสียงคำว่าแม่ของแต่ละภาษา

แม่หรือว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วให้กำเนิดลูก และลูกก็จะเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแม่โดยทั่วไปแล้วแต่ละภาษามักจะใช้อักษร "ม" เหมือนกันหมดเช่น

* คนไทย จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า "แม่"
* ภาษาอังกฤษ จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า "มาเธอร์ (Mother)" หรือ "มัม (Mom)"
* ภาษาสันสกฤต จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มารดา"
* ภาษาบาลี จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มาตา"
* คนจีน จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "ม่าม้า"
* คนแขก จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มามี้"
* คนฝรั่งเศส จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มามอง"
* คนญี่ปุ่น จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "โอก้าซัง"
* คนเกาหลี เรียกผู้ให้กำเนิดว่า "ออมม่า"
* คนเวียดนาม เรียกผู้ให้กำเนิดว่า "แม๊" ออกเสียงใกล้เคียงภาษาไทยมาก

ป้ายกำกับ: , ,

เรียงความวันแม่ เรื่อง แม่คือทุกๆสิ่ง

1.แม่คือผู้ที่ก่อกำหนิด ชีวิต และจิตวิญญาณ

2.แม่คือผู้ให้อุดมการณ์ชีวิต

3.แม่คือผู้ที่ลิขิต ลิขิตทางเดินฉัน

-จะมีใครบ้างที่ต้องยอมอู้มชูบุตรนาน 9 เดือน เพราะความรักอันยิ่งใหญ่

-จะมีใครบ้างที่ได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เพราะให้กำหนิดบุตร

-จะมีใครบ้างที่ต้อง เลี้ยงบุตร นานจนกว่าจะเติบใหญ่

-จะมีใครบ้างที่จะสั่งสอนฉันให้เป็นคนดีได้ดีกว่า แม่ และพ่อ

-จะมีใครบ้างที่ที่รักฉันนี้ กว่า สิ่งใดๆในโลก นอกจากแม่ของ ฉัน

ป้ายกำกับ: , ,

What Makes A Mother?


A mother can come in may forms:
~A mother can be a woman who conceives, births, and raises a child given to her by God. She is what we as a society see as a mother.

~A mother can be a young woman who finds herself pregnant, unable to parent, who chooses life for her child by placing him for adoption. In choosing life for her child she becomes a mother. She will not be that baby’s parent but she is his birth mother.

~A mother can be the one who prays for a baby she does not carry in her womb. She becomes the mother and parent to a child given in adoption. She is there in the night, in sickness, in health, in joy, and in sadness. She is her mother.

~A mother can be a woman who takes on the care of another’s children through foster care or guardianship. She gives her life to loving them. They see her as mother.

I read the story of a man who parented a little boy that he believe to be his biological son. At age 10 he found out he may not be his biological parent and considered leaving the child. I thought how sad. He is the only Father that child knows. He IS his father. Blood alone does not make you more of a father or not.

I am a blessed woman. God has blessed me by allowing me to be a mother to 4 wonderful children. Three of them I gave birth to. One we adopted. Yet I am mother to all of them. There is no difference. My love them will last a lifetime and is unconditional. I am their mother!

What a blessing from God to be called mother. It is my highest calling!

by Kay Green, www.PreciousKids.org

ป้ายกำกับ: ,

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

หยดหนึ่งน้ำนม

เมื่อเกิดมาบนโลกใบ นี้จนเริ่มจำความได้จวบจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ความทรงจำเก่าๆ ที่ไม่เคยจะเลือนหายไป แม้กระทั่งปัจจุบันความรู้สึกนั้นยังคงหอมกรุ่นอยู่ในหัวใจ เหมือนดอกมะลิที่บานตลอดเวลา ไม่มีวันที่จะเฉาหรือสูญสลายไปกับกาลเวลา คล้ายน้ำชุ่มฉ่ำคลายร้อนเมื่อยามกระหาย ความรู้สึกนั้นมันช่างเป็นอะไรที่พิเศษเกินคำบรรยาย แต่น้ำใดเล่าจะหอมหวานชุ่มฉ่ำอบอุ่นในจิตใจได้เท่ากับน้ำนมที่กลั่นด้วยใจ ของแม่ที่ลูกนี้ได้ดื่มกินจนเติบใหญ่ อ้อมกอดที่ถนุถนอมสายใยรักที่เชื่อมโยงระหว่างกันและกัน บอกถึงความรักอันสูงสุดที่ใครจะได้รับ จวบจนก้าวแรกแห่งชีวิตด้วยแรงแห่งน้ำนมอันบริสุทธิ์ สองเท้าเล็กๆก้าวย่างอย่างไม่มั่นใจล้มลุกคลุกคลานตลอดทางช่างยากลำบากยิ่ง นัก ไม่นานสองมือที่อบอุ่นประคับประคองร่างกายที่บอบบางให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แล้วก้าวสำคัญก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เหนื่อยเหลือเกิน ยามหลับใหลน้ำนมที่ดื่มกิน สองมือโบกพัดเอาความเย็นให้คลายร้อนตลอดเวลา ยอมอดหลับอดนอน คอยปกป้องคุ้มครองไม่ให้โดนทำร้ายจากสิ่งใด จนกระทั่งเด็กน้อยเติบใหญ่ซุกซนตลอดเวลา ผีเสื้อโบกโบยบินไปตามทุ่งหญ้า ท้องนาอันกว้างใหญ่ หิ้งห้อยกลางคืนส่องแสงรำไร สองปากพร่ำเตือนสอนสั่งให้ระวังอันตราย ยกกิ่งไม้เล็กๆคอยไล่ให้กลับบ้าน หิวเหลือเกิน ข้าวร้อนๆ น้ำพริกหอมกรุ่น ฟักแฟงแตงกวาเต็มจานน่ากินจนอิ่มท้อง แม่จ๋าเหนื่อยไหม หยาดเหงื่อที่ไหลตามหน้าพลันตกลงพื้น แต่รอยยิ้มก็ยังไม่หายไปจากใบหน้าที่งดงามในสายตาของลูกคนนี้ กาลเวลาผ่านไปช่างรวดเร็วเหลือเกิน จนวันนี้ดูเหมือนอะไรๆจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ร่างกายที่แข็งแรง เนื้อหนังที่เปล่งปลั่ง เริ่มเหี่ยวย่น เริ่มอ่อนแรงลงไปทุกที แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่และไม่เคยเปลี่ยนแปลงได้เลย คือ ความห่วงใยที่มีให้ต่อกันเสมอ เหมือนเป็นโซ่แห่งความผูกผันคล้องใจทั้งสองดวงไว้ให้เป็นดวงเดียว ถึงเวลาแล้วหนอที่ลูกต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกทำงานหาเลี้ยงตัวเอง คำบอกกล่าว ดูแลตัวเองให้ดีนะลูก ยังคงวนเวียนอยู่ในใจของลูกเสมอ ลูกไม่เคยลืมคำที่พร่ำสอนสั่งที่แม่บอกไว้ เหนื่อยกายเหนื่อยใจเมื่อยล้าสักเพียงใด ขอดูรูปของแม่ก็พอมีแรงสู้ต่อไปในวันข้างหน้า แม้อนาคตยังไม่รู้เป็นเช่นไร ก้าวสำคัญและก้าวแรกที่แม่มอบให้นั้น จะคอยเป็นพลังให้ลูกก้าวต่อไปในอนาคต หยดหนึ่งน้ำนมขาวบริสุทธิ์ที่แม่กลั่นออกมาจากใจที่อยู่ในเลือดของลูกมิเคย เจือจางสูญสลายไปแต่อย่างใด แต่มันยังคงหมุนเวียนภายในร่างกายของลูกอยู่เสมอ คอยเป็นสิ่งเตือนใจในพระคุณที่ล้นเหลือ ที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นยามที่ได้คิดถึงจนถึงทุกวันนี้

แม่ของฉัน


๑๒ สิงหาคมเป็นวันแม่ ลูกแน่วแน่ตั้งใจจะกราบแม่
แม่คอยสอนอบรมคอยดูแล พระคุณแม่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด


แม่ของฉันอายู 52 ปี เป็นผู้หญิงที่พร้อมจะดูแลลูกจะดูแลครอบครัวแม่ของฉันไม่เคยมีความสุขใน ชีวิตเลยเจอแต่ปัญหาไม่เว้นแต่ละวันไม่ว่า

จะเคลียดเรื่องลูกชายลูกสาวและ โรคภัยที่มาเยือน แม่ต้องเคลียดต้องทนทุกข์ทรมาน ทุกวันนี้แม่ของฉันถูกพี่ชายด่าทุกวัน เวลาแม่พูดอะไรไม่ถูกใจพี่ชายก็จะต่อว่า ทุกเช้าทุกเย็นแม่จะคอยหาอาหารให้ลูกๆ และสามีกินทั้งๆที่ตัวเองป่วยแม่ก็ยังหาอาหาร และทำทุกอย่างแม่ต้องใช้เงินตัวเอง ที่พี่ชายที่เป็นสามเณรให้เพื่อไปหาหมอแต่ตัวเองกลับนำเงินไปซื้ออาหารให้ ลูกแม่รักลูกเท่าๆกัน และรักลูกมากแม้กระทั่งลูกทำผิดแม่ก็ยังให้อภัย มีวันหนึ่งพี่ชายของดิฉันเมาสุรากลับ มาโมโหใส่แม่มาอาราวาดจนแม่นอน ไม่หลับทั้งคืน เกือบจะฆ่าแม่แต่ดีพ่อมาช่วยทัน แม่ก็ยังให้อภัยและมีครั้งหนึ่งดิฉันหนีเรียนไปค้างบ้านเพื่อนพอดิฉันกลับมา ถึงบ้านถูกพ่อด่า แต่แม่กลับเข้ามากอดดิฉันปลอบใจและบอกว่าไม่เป็นไร แม่ต้องเลี้ยงลูก 5 คน ด้วยความยากลำบาก จนกระทั่งลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาว แต่ลูกกลับไม่ใยดีแม่สร้างแต่ปัญหาให้แม่กลุ้มใจ ขึ้นเสียงกับแม่ไม่เคยทำงานช่วยแม่ สร้างภาระให้แม่และยังใช้แม่ซักผ้า และลูกบางคนไม่กล้าจะพาแม่ไปไหนมาไหนเพราะอายและกลัวว่าแม่จะทำให้อับอาย เพราะว่าแม่เป็นกะเหรี่ยงพูดไม่ชัดทำตัวเชยๆ ตอนที่ดิฉันอยู่ประถมดิฉันก็คิดอย่างนั้นแต่พอดิฉันโตขึ้นดิฉันก็คิดได้ ถึงแม้ว่าแม่จะไม่สวยจะไม่ดีพอแต่แม่ก็เป็นผู้ให้กำเนิดเรามาอุ้มท้องเรามา ตั้ง 9 เดือนก็เปรียบเสมือนแม่ยกก้อนหิน 9 กิโล ถ้าหากเรายกก้อนหิน 9 กิโล คงจะลำบากแต่แม่ก็ทำได้เพราะว่าแม่อดทน แม่เป็นได้ทั้งเพื่อนทั้งพ่อทั้งครูและเป็นคนที่ให้ ความอบอุ่นความสุขแก่ลูก ถ้าหากเราไม่มีแม่อยู่ด้วยแล้วเราจะรู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่ได้ตอบแทน พระคุณท่าน มีเด็กหลายคนที่กำพร้าแม่ที่ขาดความอบอุ่นแต่เรามีพร้อมทุกอย่างเราควรทำดี ให้แม่ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่มีวันหนึ่งแม่ไปผ่า

ตัดแม่ต้องนอนโรงพยาบาลหลายคืน ทำให้ดิฉันทำกับข้าวไม่เป็น จำสูตรการทำอาหารที่แม่สอนไม่ได้และไม่รู้ว่าจะทำอะไรกิน พอแม่กลับมาดิฉันก็ทำกับข้าวเป็นเพราะแม่คอยเตือนและมีแม่คอยอยู่ข้างๆ กว่าเราจะได้ดีและโตมาถึงขนาดนี้แม่ต้องทุ่มเท ขนาดไหนแม่อยากให้ลูกเรียนสูงๆ แม่พยายามหาเงินเพื่อจะส่งลูกเรียนแม่ไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนแม่ แม่ส่งลูกเรียน จนจบแต่สุดท้ายลูกบางคนกลับทำให้แม่ต้องเสียใจเพราะเรียนไม่จบสิ่งแบบนี้ทำ ให้แม่หมดกำลังใจที่จะสู้ ณ เวลานี้แม่ของดิฉัน ต้องคิดมากและเป็นห่วงพี่สาวที่ไปทำงานเพราะพี่สาวไม่โทรมาหาแม่มาหลาย อาทิตย์แล้ว ทำให้แม่ต้องกลุ้มใจจนกินไม่ได้นอน ไม่หลับจนความดันขึ้นสูง และแม่ห่วงพี่ชายกลัวว่า จะไม่มีภรรยาเพราะดื่มแต่สุรา ดิฉันสงสารแม่มาก ถ้าหากใครได้อ่านเรียงความ ของดิฉัน ดิฉันอยากให้ลูกทุกๆคนคิดและถามใจตัวเองว่าลูกบอกรักแม่หรือยังและรักแม่ หรือป่าวดูแลแม่ดีหรือยังและตอนนี้ทำให้แม่

กลุ้มใจ หรือป่าวรีบทำความดีตอนนี้ก่อนที่แม่จะไม่ได้อยู่กับเราก่อนที่แม่จะจากไป เวรกรรมมีจริงเราทำอะไรไว้กับแม่พอเรามีลูก ลูกของเราก็จะทำกับเราอย่างที่เราทำไว้กับแม่ อยากให้ลูกทุกคนมีจิตสำนึกบ้างที่เรายืนอยู่จุดนี้เพราะใคร การที่เราคลอดลูก ไม่ใช่เรื่องง่ายมันเป็นเรื่องทรมานแม่ต้องทนความเจ็บปวดและทะนุถนอมเรา อย่างดีแม่เคยซักผ้าป้อนข้าวป้อนน้ำให้เราตอนเล็กๆ แต่บางคนก็ยังใช้แม่ซักผ้าอยู่ทั้งๆที่ตัวเองก็โตแล้ว สุดท้ายนี้ดิฉันอยากให้แม่มีความสุขอยากให้แม่มีสุขภาพที่แข็งแรงอย่าให้โรค ภัย มาเบียดเบียนอยากให้แม่อยู่กับฉันไปนานและดิฉันอยากบอกแม่ว่าลูกขอโทษที่เคย ด่าไม่เคยเชื่อฟังและไม่เคยดูแลเอาใจใส่แม่ ต่อไปนี้หนูจะดูแลแม่จะเป็นคนดีจะตั้งใจเรียนเพื่อแม่


รักและเคารพแม่
จากใจเด็กน้อยบนดอย

ที่มาจาก www.doneteen.com

ป้ายกำกับ: , , , ,

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เรียงความ เรื่อง แม่ของฉัน




ตั้นแต่ฉันได้ มาสัมผัสกับอากาศภายนอกในโลกแห่งนี้ ที่เต็มไปด้วยเรื่องรวมต่างๆมากมายนานับประการ ฉันก็ได้เห็นและพบกับ ใบหน้าผู้ชายคนหนึ่งที่ อู้มฉันอยู่ และฉันก็รู้ว่าคนนั้นคือคนที่ได้ให้ชีวิตฉันนั่นเอง และต่อมา ฉันก็พอกับผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่ พร้อมกับรอบยิ้ม ฉับรับรู้ได้ถึงความรู้สึกประหลาด ว่าคนๆนี้รักฉันมากเพียงใด

ต่อมาฉันได้ถูกเลี้ยงมากับบุคคลทั้ง 2 คน ฉันควมคุมตังเองไม่ได้ซักอย่าง ฉันหิว ฉันก็ต้องร้องไห ฉับเจ็บ ฉันก็ต้องร้อง พอฉันไม่พอใจฉันก็ต้องร้องไห และทุกครั้งที่ฉันร้องไหนั้นเพียงไม่นานก็รู้ว่ามีคนมาคอยอุ้มฉันแล้ว มันทำให้ฉันนั้นรู้ว่ามีความอบอุ่นอยู่ข้างๆกายฉันและเมื่อฉันโตมาเพียงพอที่ฉันจะพยายามลุกขึ้นมาเดินได้ และวันนั้นฉันดีใจที่สุด เมื่อฉันนั้นพยายามตั้งตัวเองให้ตรงพับพื้น และพยายามก้ามไปข้างหน้าได้เป็นก้าวแรก แล้วก็อีกเช่นกัน มีคนที่ดีใจกว่าฉันที่คอยเฝ้ามอง ดูแลประคองฉันให้เดินไปข้างหน้าได้ พอฉันได้เรียนรู้อะไรมากพอที่ฉันจะดูแลตัวเองได้ในส่วนหนึ่งฉันก็เริ่มได้รู้จักโรงเรียน ที่นั่นมีเพื่อนให้คอยเล่นมากมาย บุคคลที่คอยสอนฉันให้ฉลาด เพียบพร้อมในเรื่องการศึกษา ฉันถูกสอนอยู่ที่นั่นโดยมีคนมาคอยดูแลรับส่งฉันทุกวัน และทุกครั้งเมื่อฉันกลับถึงบ้างก็มีคนคอยดูแลสอบถามฉัน ว่าวันนี้เป็งยังไง เรียนอะไรบ้าง พอฉันโตมามากพอ ฉันก็ได้เข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษา มันทำให้ฉันได้เข้าไปอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่งที่เต็มไปด้วยเพื่อนฝูงมากมาย และเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และทุกๆครั้งที่ฉันกลับบ้าน ก็มีคน มาหยุดความสนุกสนานนั้นเอาไว้ โดยการกล่าวตักเตือนฉันในเรื่องต่างๆ จนฉันนั้นรู้สึกเหมือนว่ามันกลายเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ จนบางครั้ง มันก็ต้องทำให้ฉันโกรธ และเกิดความไม่พอใจ ขณะที่คนๆนั้นยังคอย ดูแลฉันในเรื่องต่างๆมากมาย ที่ฉันคิดไม่ถึง และเมื่อฉันโตมาเป็นผู้ใหญ่ จนฉันดูแลตัวเองได้ ฉันก็ต้องทำงาน ต่างๆ และก็ยังมีคนที่ ฉันต้องห่วงใย และ เพราะคนๆนั้น ต้องการความรักจากฉันดั่งที่เขาให้ความรักแก่ฉัน
และคนๆนั้นคือ "แม่" ของฉันนั่นเอง และไม่มีอย่างอืนอีกแล้วที่ฉันให้ได้มากกว่าสิ่งของหรือใดๆ ฉันจะเข้าไป กอด และบอก "รัก" ที่ตักแม่ของฉัน *-*

ป้ายกำกับ: ,

เรียงความวันแม่


เรียงความวันแม่นี้ เขียนขึ้นมาให้ผู้ได้ตระหนักถึงความรักที่แม่มีต่อลูกนะครับ หวังว่าผู้อ่านคงจะได้ประโยชน์จาก เรียงความวันแม่ นี้ ไม่มากก็น้อยนะครับ

คำว่า "แม่" คือทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง เป็นคำที่มีความหมายมากกว่าการเป็นคำใน พจนานุกรม เป็นคำที่มีความหมายมากกว่าคำพูด เป็นคำที่มีความหมายมากกว่าการเขียน โดยแม่นั้นเป็นผู้ก่อกำเนิดชีวิต และเลือดเนื้อของลูกเฝ้าดูแลอุ้มชู เลี้ยงลูกมาจนเติบใหญ่ เป็นผู้สั่งสอน ให้มีศิลธรรมอันดี และที่สำคัญคือ แม่เป็นผู้ที่รักเรามากที่สุดโนโลก

นับเวลาตั้งแต่เริ้มต้น ที่แม่ตั้งทอง เป็นเวลาแห่งความยากลำบาก ผ่านเดือนที่่ 1 แม่เฝ้าทนุถนอมลูกน้อยอย่างใกล้ชิด ทำกิจกรรมต่างๆ อย่างระมัดระวังเพื่อที่จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อย เดือนที่ 2 ผ่านไปอย่างความยากลำบาก แม่ก็ยังคอยและระมัดระวังมิให้ลูกน้อยกระทบกระเทือน เดือนที่ 3 ผ่านไปลูกน้อยๆ ค่อยมีชีวิตขึ้นมา เดือนที่ 4 และ 5 ผ่านไปลูกน้อยค่อยๆก่อตัวเป็นรูปร่างให้พ่อแม่ได้ดูแลตั้งแต่ในท้อง เดือนที่ 6 และ 7 ผ่านไป พร้องกับความลำบากมากขึ้นของแม่ที่ต้องคอยแบกรับลูกที่อยู่ในท้อง แต่แม่ก็ทำด้วยความเต็มใจ เดือนที่ 8 และ 9 ลูกน้อยที่โตมาเต็มที่ในท้องพร้องที่จะ ลืมตาออกมาสู่โลกกว้างภายนอก พร้อมๆ กับความเจ็บของแม่ที่ต้องพยายามคลอดลูกน้อยออกมา ซึ่งเป็นความเจ็บปวดที่เกินคณานับ แต่แม่ก็ยังยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นหน้าลูกน้อยเป็นครั้งแรก
เมื่อวันเวลานับจากคลอดผ่านไป ลูกน้อยก็เติบใหญ่มาพร้อมกับการดูแลของพ่อแม่ที่เป็นความยากลำบากอย่างมากในการดูแล ตักเตือนสั่งสอน คอยถนุถนอมห่วงใยและให้ความรัก คอยปลอบโยนลูกในเวลาที่เหน็ดเหนื่อยท้อใจ คอยตักเตือนและใจกำลังใจตอนที่เราผิดพลาด และยังคอยหวังให้เรากลับมาดูแลท่านเมื่อท่าน ชรา

นับตั้งแต่วันที่เราได้ลืมตาบนโลกนี้ขึ้นมา จนถึงที่เรามานั่งอ่านเรียงความนี้ เราเคยทำอะไรตอบแทนทั่งไปแล้วบ้าง เคยไหมที่จะพูดว่า เหนื่อยไหมที่ต้องทำงานหนัก เคยไหมที่จะคอยเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่าน เคยไหมที่จะแบ่งเบาภาระของท่าน แล้วเคยไหม ที่จะบอกกับท่านว่า "รักแม่" ถ้าคุณยังไม่เคยหรือเคยน้อยมาก เดินไปหาท่านวันนี้เถอะครับ แล้วบอกรักคุณแม่ เพื่อที่จะทำให้ท่านได้รู้ว่าเรารักท่านมากแค่ไหน

ป้ายกำกับ: , , ,